วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

OS เรื่องเล่าของต้วนอี๋เอิน (2)

ยูคยอมเป็นแฟนคนที่สองของผมครับ
เขาเข้ามาในวันที่หัวใจผมอ่อนแอ อีกแล้ว...ดูเหมือนผมเป็นคนใจง่ายที่จะรับใครก็ได้ใช่ไหม
แต่เปล่าเลย
อันที่จริง ...เขาอยู่ในใจผมมาตลอด แต่ผมไม่รู้ตัวต่างหาก

หลังจากที่ผมเลิกรากับแจ็คสัน ผมกลายเป็นคนที่เงียบขรึมกว่าเดิม จนคนรอบข้างเป็นห่วง
ไม่เว้นแม้กระทั่งยูคยอม

อันที่จริงอาการผมไม่ได้น่าเป็นห่วงขนาดนั้น ไม่ได้ถึงกับปิดหัวใจจนไม่เปิดรับใคร
ผมแค่กำลังอยู่ในช่วงซ่อมแซมใจพังๆของตัวเองอยู่

หลายคนพยายามเข้าหาผมหลังจากที่รู้ว่าผมโสด พวกเขาขนานนามว่าผมคือเจ้าชายน้ำแข็ง เงียบขรึม เย็นชา ในขณะเดียวกันก็น่าค้นหา ผมก็ไม่ยักรู้ว่าคนสมัยนี้มีรสนิยมกันแบบนี้

ผมเป็นคนพูดน้อยถึงน้อยมาก บางครั้งแทบไม่พูดเลย ผมเคยลองเดทกับคนพวกนั้นนะ แต่ทุกคนก็พร้อมใจกันโบกมือลาโดยให้เหตุผลเดียวกันว่า

ฮยองแม่งเงียบเกินไปว่ะ
ไม่ว่าจะทำยังไงฉันก็เข้าไม่ถึงอปป้าสักที

บางครั้งผมก็แอบท้อใจอยู่ลึกๆ ขนาดแจ็คสันที่ว่าแน่ยังใช้เวลาตั้งนานกว่าจะเข้าถึงตัวผม แล้วกับคนพวกนี้ที่เพิ่งดูใจกันไม่ถึงอาทิตย์ก็ตัดใจกันเสียแล้ว

หรือผมอาจจะเหมาะกับการอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิตจริงๆนะ

แต่กับหมอนั่น คิมยูคยอม อาจเป็นข้อยกเว้น

ยูคยอมไม่เคยเข้าใกล้ผมจนผมรู้สึกอัดอัด ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยอยู่ห่างจนพ้นสายตา ในขณะที่ทุกคนรุมล้อมผม เขามักจะอยู่วงนอก คอยเก็บรายละเอียดของผมเงียบๆ
เขารู้ว่าผมชอบกินหมูสามชั้นย่างหอผักใส่เครื่องเคียงอะไรบ้าง จำได้แม้กระทั่งมุขแป้กๆของผมซึ่งถ้าเป็นคนอื่นคงฟังและปล่อยผ่านไป(เพราะมันแป้กจริง)

ผมเป็นคนโลกส่วนตัวสูง ยูคยอมเองถึงจะดูเข้ากับคนง่ายแต่ก็มีโลกส่วนตัวสูงเช่นกัน เราสองคนมักจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไร จนคนอื่นๆให้ฉายาผมและเขาว่าเป็นคู่หู no jam เวลาอยู่ด้วยกันแล้วโคตรน่าเบื่อ(ในสายตาคนภายนอก)

ผมและเขามักจะใช้ใจสื่อสารกันเป็นส่วนใหญ่ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เราไม่ค่อยพูดกัน ยูคยอมรู้ว่าผมต้องการอะไร และผมก็รู้ว่าเขาต้องการอะไร เพียงแค่สบตากันเท่านั้น

ครั้งแรกที่เราเจอกัน เขาวิ่งกระหืดกระหอบมาหาผม เพียงเพื่อที่จะถามว่า
ฮยองตัดผมทรงนี้ที่ร้านไหนอ่ะ ผมจะไปตัดบ้าง
และในวันรุ่งขึ้น เด็กนั่นก็เข้ามาในบริษัทพร้อมกับทรงผมทรงเดียวกับผมเป๊ะ จนหลายคนทักผิดไปตามๆกัน

ยูคยอมคือตัวผมในเวอร์ชั่นอ้วน
ความคล้ายคลึงกันทางกายภาพของเราสองคนทำเอาผมแปลกใจไม่น้อย ยูคยอมเป็นคนเกาหลีแท้ที่หน้าตาไม่ได้เกาหลีเลย เขาชอบทำตัวเหมือนวัยรุ่นอเมริกันที่ผมเคยเจอสมัยเรียนไฮสคูล นอกจากนี้ศิลปินในดวงใจของเขายังเป็นคริส บราวน์ นักร้องผิวสีชาวอเมริกันอีกต่างหาก
อาจเพราะด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ผมถูกชะตากับเขาตั้งแต่แรกเห็น

ยูคยอมเป็นคริสตัลของวง
ทุกคนพร้อมใจกันให้ฉายานี้กับเขา ซึ่งผมก็ไม่ขัดข้อง จิตใจของเขาบริสุทธิ์จริงๆ ยูคยอมเป็นเด็กที่ใจดี ขี้อาย พร้อมโอนอ่อนตามคนอื่นเสมอ จนบางครั้งก็กลายเป็นเป้านิ่งให้พี่ๆแกล้งอยู่บ่อยๆ
แม้ว่าปัจจุบันคริสตัลจะแตกไปนานแล้ว แต่สำหรับผม ยูคยอมก็ยังคงเป็นยูคยอมคนเดิม คนที่จิตใจดี พร้อมจะเป็นที่พักพิงยามอ่อนล้าให้ผมเสมอ

ยูคยอมเป็นคนที่มีความเป็นศิลปินสูงมาก
เขาเคยบอกว่า ถ้าหากไม่ได้เดบิวต์ก็คงเป็น dancer ให้กับที่ไหนสักแห่ง เมื่อมีเวลาว่างยูคยอมชอบฟังเพลงและออกแบบท่าเต้นของตัวเอง ทุกอารมณ์และความรู้สึกของเขาไม่ว่าจะดีใจ เสียใจ โกรธเกรี้ยว ล้วนแต่ถูกส่งผ่านออกมาในรูปแบบของการเคลื่อนไหวไปตามจังหวะดนตรีอย่างมีชั้นเชิง บางครั้งเวลาทุกคนอยู่นิ่งๆเขาก็จะเต้นดุ๊กดิ๊กขึ้นมาเฉยๆ พอถามว่าเต้นเพลงอะไร ยูคยอมก็จะตอบกลับมาว่า "เพลงที่อยู่ในหัว" จนแฟนๆให้ฉายาเขาว่าอะไรๆลูกเทพสักอย่าง พอไปถามแบมแบม หมอนั่นก็เอาแต่หัวเราะ แล้วก็ไม่พูดอะไร

ถ้าถามผม ผมไม่มีสเป็คคนในดวงใจหรอก ขอแค่อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจก็พอ
ซึ่งยูคยอมทำให้ผมสบายใจที่จะอยู่ด้วย
ความพอดีที่เข้ากับใจของผม เพียงเท่านี้ก็มากพอที่ผมจะยกหัวใจดวงนี้ให้เขาดูแล

.
.
.
.
.
.
.
.
.

"ฮยองทำไรอยู่อ่ะ"

ยูคยอมพาร่างชุ่มเหงื่อจากการซ้อมเต้นเดินเข้ามาใกล้ผม ก่อนจะทิ้งตัวลงข้างๆกัน
ผมหันไปยิ้มให้เขาเบาๆ เป็นจังหวะพอดีที่เขาล้มตัวลงใช้ตักของผมหนุนต่างหมอน

"บันทึกลับ"

เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ผมจึงวางมือถือลงข้างตัวและลูบหัวทุยสวยนั้นเบาๆ
"เหนื่อยมั้ย" ผมถาม
ยูคยอมส่ายหน้าเบาๆ ผมพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ แล้วปล่อยให้เขาดึงมือข้างที่วางไปเล่นตามใจ

ทุกคนในบริษัทกลับไปหมดแล้ว จึงเหลือเพียงผมสองคน ไม่นานนักผมกับยูคยอมก็ออกมา โดยไม่ลืมที่จะสวมหมวก แว่นตา และ mask เพื่ออำพรางตัว

เขาประสานมือผมไว้แน่น ก่อนจะเดินไปตามถนนที่ทอดยาว

เราต่างรู้ดีว่ามันไม่ง่าย ยิ่งในฐานะที่เป็นไอดอลทั้งคู่จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เส้นทางข้างหน้าอาจไม่สวยงาม แต่ตราบใดที่เรายังจับมือกันแบบนี้ ผมก็พร้อมที่จะลุยไปกับเขา

"ยูคยอมอ่า"
"ครับ"
"รักนะ"
"รักเหมือนกันครับ"

แจ็คสันหวังเป็นรักแรกที่นึกถึงทีไรก็มีความสุข
ส่วนคิมยูคยอมคือรักปัจจุบันและตลอดไปของผม

--------------------------------------------------------------
ไม่รู้จะจบยังไงให้ดี แง มันเป็นฟิควูบจริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น